แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เตรียมกลับมาล่าตัว ฌอน ลองสตาฟฟ์ กองกลางของ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด อีกครั้งในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะซัมเมอร์นี้ หลังจากที่เคยให้ความสนใจมาแล้วเมื่อ 6 ปีก่อน
ย้อนกลับไปในปี 2019 สมัยที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ยังคุมทัพ “ปีศาจแดง” เขาเคยพยายามคว้าตัวมิดฟิลด์รายนี้มาเสริมทีม แต่ดีลต้องล่มลง เนื่องจาก นิวคาสเซิ่ล ตั้งค่าตัวไว้สูงถึง 50 ล้านปอนด์ ซึ่งทำให้การเจรจาไม่บรรลุผล
ในฤดูกาลนี้ ลองสตาฟฟ์ วัย 27 ปี กลับได้รับโอกาสลงเล่นตัวจริงในพรีเมียร์ลีกเพียง 8 นัดเท่านั้น และล่าสุดยังถูกดร็อปเป็นสำรองในเกมที่ นิวคาสเซิ่ล เอาชนะ ลิเวอร์พูล 2-1 คว้าแชมป์คาราบาว คัพ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา สถานการณ์นี้ทำให้อนาคตของเขากับทีม “สาลิกาดง” เริ่มไม่แน่นอน
- เสือใต้ลุ้นหนัก!เผย ‘นอยเออร์’ เจ็บซํ้าต้องหยุดพักเพิ่ม
- ‘ทูเคิ่ล’ ชี้ต้องช่วย ‘จู๊ด’ ปรับสไตล์พาสิงโตไปให้ไกลกว่าเดิม
- ของจริง!’แม็คโทมิเนย์’ คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมสก็อตแลนด์ 2 ปีซ้อน
ตามรายงานจาก Chronicle Live ระบุว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เอฟเวอร์ตัน ต่างจับตามองสถานการณ์ของ ลองสตาฟฟ์ อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเมื่อสัญญาของเขากับ นิวคาสเซิ่ล จะเหลือเพียง 1 ปีในช่วงซัมเมอร์นี้ ซึ่งอาจเป็นโอกาสให้ทั้งสองทีมยื่นข้อเสนอในราคาที่สมเหตุสมผล
แม้ว่าจะมีข่าวความสนใจจากทีมอื่น แต่รายงานยังเผยว่า ลองสตาฟฟ์ อาจไม่ต้องการย้ายออกจาก นิวคาสเซิ่ล ซึ่งเป็นทีมที่เขารัก อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวก็ปรารถนาที่จะได้ลงสนามอย่างสม่ำเสมอมากกว่านี้ เพื่อรักษาฟอร์มการเล่นและพัฒนาฝีเท้า
สำหรับ นิวคาสเซิ่ล การปล่อยตัว ลองสตาฟฟ์ ออกไปในช่วงซัมเมอร์นี้อาจกลายเป็นดีลที่สร้างกำไรล้วน ๆ ตามกฎ Profitability and Sustainability Rules (PSR) ของพรีเมียร์ลีก เนื่องจากเขาเป็นเด็กปั้นจากอะคาเดมี่ของสโมสรเอง ซึ่งหมายความว่ารายได้จากการขายจะนับเป็นกำไรทั้งหมด