เชลซี สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งพรีเมียร์ลีก ออกมายืนยันว่าพวกเขากำลังอยู่ในระหว่างการเจรจากับสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) เพื่อหาข้อตกลงและทางออก หลังจากที่สโมสรมีความเสี่ยงที่จะละเมิดกฎควบคุมการเงิน หรือ “ไฟแนนเชียล แฟร์เพลย์” (FFP)
จากรายงานการเงินล่าสุดของ “สิงห์บลูส์” ในปีงบประมาณ 2024 สโมสรสามารถทำกำไรก่อนหักภาษีได้ถึง 128.4 ล้านปอนด์ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่สโมสรมีผลกำไรนับตั้งแต่เปลี่ยนผ่านสู่การบริหารของ ท็อดด์ โบห์ลี่ และกลุ่มทุน เคลียร์เลค แคปปิตอล อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวรวมเงินราว 200 ล้านปอนด์จากการขายทีมฟุตบอลหญิงของสโมสรให้กับ BlueCo บริษัทแม่ เพื่อแยกการบริหารทีมหญิงออกจากทีมชายในช่วงปลายฤดูกาลที่แล้ว
ดีลการขายทีมหญิงดังกล่าว ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 200 ล้านปอนด์ ถือเป็นสถิติใหม่ของวงการฟุตบอลหญิง แต่จนถึงขณะนี้ ดีลนี้ยังไม่ได้รับการอนุมัติจากทั้งยูฟ่าและพรีเมียร์ลีก โดยเช้าวันนี้ (5 เมษายน 2025) เชลซี ได้ออกมาเปิดเผยว่าพวกเขากำลังหารือกับยูฟ่าเกี่ยวกับปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อเอกสารการเงินที่ยื่นไป
- ‘มอยส์’ ปัดตอบเรื่องจุดโทษพร้อมชมลูกฟอร์มลูกทีมช่วงครึ่งหลัง
- ‘อาร์เตต้า’ รับจุดโทษน่าผิดหวังทำโอกาสลุ้นแชมป์ริบหรี่
- อโมริม เผย แมนยู แชมป์ซีซั่นหน้านั้น เป็นเรื่องที่ยากมากๆ
ตามกฎของยูฟ่า สโมสรจะไม่สามารถรวมรายได้จากการทำธุรกรรมกับบริษัทที่เกี่ยวข้องกับเจ้าของทีมในบัญชีสำหรับการคำนวณกฎแฟร์เพลย์การเงินได้ ซึ่งหมายความว่าเงิน 200 ล้านปอนด์จากการขายทีมหญิงอาจไม่สามารถนำมาคิดในบัญชีนี้ นอกจากนี้ กฎดังกล่าวยังครอบคลุมถึงกรณีที่เชลซีเคยขายโรงแรม 2 แห่งให้กับบริษัทลูกเมื่อฤดูกาลที่แล้ว เพื่อให้การเงินสอดคล้องกับกฎของพรีเมียร์ลีก โดยดีลโรงแรมนั้นมีมูลค่าเริ่มต้น 76.3 ล้านปอนด์ แต่หลังการประเมินจากพรีเมียร์ลีก มูลค่าถูกลดลงเหลือ 70.3 ล้านปอนด์
ทั้งนี้ ยูฟ่ากำหนดให้แต่ละสโมสรสามารถขาดทุนรวมกันได้ไม่เกิน 200 ล้านยูโร (ประมาณ 170.1 ล้านปอนด์) ในระยะเวลา 3 ปี ซึ่งในฤดูกาล 2023/24 เชลซี ทุ่มเงินไปถึง 553 ล้านปอนด์ในการซื้อนักเตะ ขณะที่ได้เงินคืนจากการขายนักเตะเพียง 208 ล้านปอนด์เท่านั้น
หากสถานการณ์ไม่คลี่คลายและเชลซีถูกตัดสินว่าละเมิดกฎแฟร์เพลย์การเงิน อาจนำไปสู่บทลงโทษรุนแรง รวมถึงการถูกแบนจากทัวร์นาเมนต์ของยูฟ่าในอนาคต สถานการณ์นี้จึงกลายเป็นประเด็นที่แฟนบอลและวงการฟุตบอลจับตามองอย่างใกล้ชิด